วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การอ่าน..สร้างการคิด..ต่อยอดสู่การพัฒนาชีวิตได้อย่างไร?


การอ่าน..สร้างการคิด..ต่อยอดสู่การพัฒนาชีวิตได้อย่างไร?
ทุกครั้งที่พ่อแม่อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง..สมองส่วนการเรียนรู้ของลูกน้อยได้เริ่มทำงานแล้ว!!
สมองส่วนหน้า (Frontal Lobe) ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหว การออกเสียง ความคิด ความจำ สติปัญญา บุคลิก ความรู้สึก พื้นอารมณ์ จดจำเกี่ยวกับความคิด และพฤติกรรม เช่น การเดิน การพูด การแก้ปัญหา ควบคุมเกี่ยวกับการวางแผน การกระทำต่างๆ การตอบสนอง พัฒนาการของสมองส่วนนี้เริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6-12 เดือน
สมองส่วนหลัง (Parietal Lobe) ทำหน้าที่ควบคุมความรู้สึกด้านการสัมผัสจากผิวกายส่วนต่างๆ รับรู้เรื่องของมิติสัมพันธ์กับกาลเวลา และสถานที่ สามารถจดจำสิ่งของจากการสัมผัสจับสิ่งต่างๆ การทำงานสัมพันธ์กันระหว่างมือและตา
สมองส่วนท้ายทอย (Occipital Lobe) ทำหน้าที่ควบคุมการมองเห็น จดจำสิ่งของหรือคน และรับรู้ ทำหน้าที่ส่งข้อมูลในสิ่งที่มองเห็นไปยังสมอง (เข้าใจว่าสิ่งที่มองเห็นนั้นคืออะไร) สามารถพัฒนาได้ตั้งแต่แรกเกิด
สมองส่วนขมับ (Temporal Lobe)  ทำหน้าที่ควบคุมการรับรู้ข้อมูลจากการได้ยิน การพูด และความจำบางส่วน

การอ่าน “สร้างการคิด” ได้อย่างไร?
- น้ำเสียงที่ได้ยิน ภาพที่ได้เห็น จะช่วยให้ลูกสนใจฟัง ขณะเดียวกันสมองของลูกจะสร้างภาพตามเรื่องที่พ่อแม่เล่า จึงเป็นการส่งเสริมจินตนาการ ส่งผลให้เซลล์สมองของลูก ทำงานสมบูรณ์ขึ้น
- สมองของลูกไม่ได้จดจ่อเฉพาะการฟังและสิ่งที่เห็น แต่มองรูปร่าง ท่าทาง น้ำเสียง สายตา ความรู้สึกร่วมไปด้วย การอ่านนิทานให้ลูกฟัง จึงเป็นการสร้างพื้นฐานทางภาษาที่ดีให้กับลูก
- การฟังนิทานเรื่องใหม่ๆ สมองของลูกจะสร้างเครือข่ายเส้นใยสมองขึ้นมา และขณะที่ฟังนิทาน เรื่องเดิมบ่อยๆ จะเป็นการสร้างเครือข่ายเส้นใยประสาทให้เพิ่มและทำงานมากขึ้น เมื่อลูกโตขึ้นจะช่วยให้ลูกเข้าใจ คิดสิ่งต่างๆ อย่างเป็นระบบ และเข้าใจได้รวดเร็ว
- ช่วงเวลาที่ลูกจดจ่อ ตั้งใจฟังพ่อแม่อ่านหรือเล่านิทาน ลูกน้อยจะผ่อนคลายและเกิดสมาธิ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความฉลาดทางปัญญาให้กับลูก

การอ่าน “สร้างพลังชีวิต” ได้อย่างไร?
ความสุขที่เกิดจากความรู้สึกและอารมณ์ที่เป็นบวก จะทำให้ลูกเกิดความทรงจำที่ดี เก็บอยู่ในสมอง มีการสร้างเครือข่ายเส้นใยประสาท และเชื่อมต่อเซลล์สมองที่กระจายตัวอยู่เข้าหากันเป็นอย่างดี เพิ่มกระบวนการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่ยังเล็ก สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีให้กับลูก และถ้าพ่อแม่สอดแทรกคุณธรรมผ่านหนังสือหรือนิทานให้ลูกบ่อยๆ หรือใส่ข้อมูลที่ต้องการปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้เป็นทักษะชีวิตและข้อคิดต่างๆ ก็เท่ากับเป็นการเสริมสร้างทักษะชีวิต หรือเพิ่มพลังชีวิตให้ลูกอีกด้วย

หากพ่อแม่ท่านไหนอยากเห็นว่า “การอ่าน สร้างการคิด ต่อยอดสู่การพัฒนาชีวิตได้จริงหรือไม่” สามารถไปชมความสามารถ ความน่ารักสดใสกับลีลาการเล่านิทานของนักเล่าตัวน้อย ในโครงการ “ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 7” ในวันที่  28-29 กรกฎาคม 2555 ณ อุทยานการเรียนรู้ TK park ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์  ชั้น8    เวลา 13.00 - 16.00 น.       หรือติดตามรายละเอียดได้จาก www.motherandcare.in.th, www.tkpark.or.th, นอกจากจะได้เห็นถึงความสามารถ ความน่ารักสดใสของเด็กๆ เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ฟังแล้ว ส่งที่สำคัญคือ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เด็กที่ผ่านกระบวนการการหล่อหลอมด้วยนิทานและการส่งเสริมการอ่านภายในครอบครัว เป็นเด็กที่มีพัฒนาการสมวัย มีความฉลาด กล้าแสดงออก สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ รวมทั้งมีไหวพริบปฏิภาณอีกด้วย...

ไม่มีความคิดเห็น: